เมนู

3 สัญญาณอันตรายของวุ้นตาเสื่อม

วุ้นตาเสื่อมคืออะไร

ลองจินตนาการว่าดวงตาของคุณนั้นเปรียบเสมือนลูกกลมโตๆ ที่บรรจุของเหลวใสๆ ไว้ภายใน ซึ่งของเหลวใสๆ นี้ก็คือวุ้นตาหรือเยลลี่ของตา ที่ทำหน้าที่เหมือนสารหล่อลื่นและช่วยรักษารูปทรงของลูกตาให้สมบูรณ์ เมื่ออายุมากขึ้น วุ้นตาก็เริ่มเสื่อมสภาพและแข็งตัวขึ้น เหมือนเยลลี่ที่โดนแช่แข็งนานเกินไป ทำให้เกิดการแยกตัวออกจากจอประสาทตา ส่งผลให้มองเห็นจุดลอยไปมาหรือเห็นแสงแฟลชในตา ซึ่งเป็นอาการที่เรียกว่า “วุ้นตาเสื่อม”

สาเหตุของวุ้นตาเสื่อม

อายุที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวการหลักในการเกิดวุ้นตาเสื่อม เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น โปรตีนและเส้นใยในวุ้นตาเริ่มเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ นอกจากนี้อาจมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจซ้ำเติมทำให้เกิดวุ้นตาเสื่อมได้เร็วขึ้น เช่น

  • วัยชรา ยิ่งอายุมาก วุ้นตายิ่งเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ โรคข้อ ทําให้เลือดไปเลี้ยงวุ้นตาไม่ดี
  • พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เป็นวุ้นตาเสื่อม มีพันธุกรรมเสี่ยง
  • สูบบุหรี่ ดื่มสุรา ทําลายเซลล์วุ้นตา
  • อ้วน ไม่ออกกําลังกาย ทําให้ไขมันและน้ําตาลในเลือดสูง
3 สัญญาณอันตรายของวุ้นตาเสื่อม 1

อาการของวุ้นตาเสื่อม

อาการที่พบบ่อยที่สุดของวุ้นตาเสื่อมคือ เห็นจุดลอยไปมาในตา ซึ่งจุดเหล่านี้มักมีลักษณะเป็นเส้นใยหรือวงกลม และอาจลอยไปมาในทิศทางต่างๆ เมื่อมองไปที่พื้นที่สว่าง เช่น ผนังสีขาวหรือท้องฟ้า

อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ ได้แก่

  • เห็นแสงแฟลชในตา เหมือนมีแสงไฟหรือแสงฟ้าแลบสั้นๆ ในตา โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่มืดหรือหลับตา
  • มีเงาหรือจุดดำบังการมองเห็น เงาหรือจุดดำเหล่านี้มักมีขนาดเล็ก และอาจบังการมองเห็นได้ชั่วคราว

3 สัญญาณอันตรายของวุ้นตาเสื่อม

สัญญาณอันตรายของวุ้นตาเสื่อมที่ควรระวัง คือ

  • สัญญาณอันตรายที่ 1: จุดลอยไปมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากสังเกตเห็นจุดลอยไปมาจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือจุดลอยไปมามีขนาดใหญ่ขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น จอประสาทตาฉีกขาดหรือจอตาลอก
  • สัญญาณอันตรายที่ 2: เห็นจุดสีดำหรือประกายไฟในตา หากเห็นจุดสีดำหรือประกายไฟในตาบ่อยๆ หรือเห็นเป็นระยะเวลานาน ควรรีบปรึกษาแพทย์เช่นกัน เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น จอประสาทตาฉีกขาดหรือจอตาลอก
  • สัญญาณอันตรายที่ 3: ม่านบังตาหรือการมองเห็นลดลงอย่างฉับพลัน หากเกิดม่านบังตาหรือมองเห็นลดลงอย่างฉับพลัน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น จอตาลอก
3 สัญญาณอันตรายของวุ้นตาเสื่อม 2

ภาวะแทรกซ้อนของวุ้นตาเสื่อม

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากวุ้นตาเสื่อม ได้แก่

  • จอประสาทตาฉีกขาด เกิดจากการที่วุ้นตาเสื่อมแยกตัวออกจากจอประสาทตา ทำให้เส้นเลือดในจอประสาทตาฉีกขาด ส่งผลให้มองเห็นม่านบังตาหรือสูญเสียการมองเห็นบางส่วนชั่วคราว
  • จอตาลอก เกิดจากการที่จอประสาทตาหลุดออกจากชั้นเนื้อเยื่อที่ยึดติดกับผนังลูกตา ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นถาวร หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

การวินิจฉัยและรักษาโรควุ้นตาเสื่อม

การวินิจฉัยวุ้นตาเสื่อมสามารถทำได้โดยการตรวจตาอย่างละเอียด โดยจักษุแพทย์จะใช้เครื่องมือตรวจตาที่เรียกว่าออฟtalmoscope เพื่อส่องดูภายในลูกตา ตรวจหาจุดลอยไปมา แสงแฟลช และจอประสาทตาฉีกขาด

การรักษาวุ้นตาเสื่อมขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยหากเป็นอาการเล็กน้อย อาจไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากเป็นอาการรุนแรง เช่น จอประสาทตาฉีกขาดหรือจอตาลอก อาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีต่างๆ เช่น

  • เลเซอร์: ใช้เลเซอร์เพื่อเชื่อมจุดฉีกขาดของจอประสาทตา
  • การผ่าตัด: ใช้เครื่องมือผ่าตัดเพื่อติดจอประสาทตากลับคืนสู่ตำแหน่งเดิม

วิธีป้องกันวุ้นตาเสื่อม

วิธีป้องกันวุ้นตาเสื่อม ได้แก่

  • ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ และควบคุมความดันโลหิต
  • ตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจพบภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

วุ้นตาเสื่อม: อย่ามองข้ามสัญญาณอันตราย

วุ้นตาเสื่อมเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ หากพบสัญญาณอันตรายของวุ้นตาเสื่อม ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาที่ทันท่วงทีและป้องกันการสูญเสียการมองเห็น

CareGiver ใส่ใจทุกรายละเอียด ดูแลผู้สูงอายุด้วยความรัก

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บริการดูแลผู้สูงอายุ รับเฝ้าไข้ดูแลผู้สูงอายุและเด็กทั้งที่ รพ.และที่บ้าน

ติดต่อ 0639156653
Line ไอดี: @caregiver.in.th

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อัพเดทล่าสุด